ข้อชี้แจงการบูรณะพระปรางค์วัดอรุณราชวรารามวรมหาวิหาร

** กรมศิลปากรชี้แจงการบูรณะพระปรางค์วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร**


 

วันพุธที่ ๑๖ สิงหาคม ๒๕๖๐ เวลา ๑๕:๓๐ ณ.ห้องประชุมดำรงราชานุภาพ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร
นายอนันต์ ชูโชติ อธิบดีกรมศิลปากร ชี้แจงกรณีมีกระแสข่าว เรื่องการบูรณะพระปรางค์วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร กรุงเทพมหานคร

 

กรมศิลปากรขอชี้แจงว่า พระปรางค์วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร เป็นโบราณสถานเก่าแก่ มาตั้งแต่กรุงศรีอยุธยา เรื่อยมาจนถึงกรุงธนบุรี กรุงรัตนโกสินทร์และปัจจุบันพระปรางค์เปรียบเสมือนมหาธาตุของกรุงรัตนโกสินทร์ เป็นสัญลักษณ์ที่นานาชาติได้รับรู้ถึงความสง่างาม ความสำคัญ ในปี ๒๕๕๖ กรมศิลปากรตรวจพบว่า พระปรางค์วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร มีความชำรุดด้วยเนื้อปูนเสื่อมสภาพตามกาลเวลา โดยพบว่าเศษชิ้นส่วนของปูนปั้นเทวดาทรงม้าได้หลุดร่วงลงมา จึงได้สำรวจความเสียหายและสภาพของโบราณสถาน พร้อมจัดทำโครงการบูรณะพระปรางค์และพระมณฑปวัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหารขึ้น โดยแบ่งการดำเนินงานออกเป็น ๕ ปี ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๖-๒๕๖๐

แนวทางในการบูรณะ กรมศิลปากรยึดมั่นในหลักการตามสากล กล่าวคือ รักษารูปแบบ ฝีมือช่างและวัสดุ เพื่อรักษาหลักฐานตามประวิติศาสตร์ที่มีการบูรณะซ่อมแซม องค์พระปรางค์ มาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ ๒ ถึงปัจจุบัน สิ่งที่ชำรุดก็ได้จัดทำขึ้นใหม่ โดยเลียนแบบของเดิมพร้อมกับมีการบันทึกหลักฐานของงานศิลปกรรม สถาปัตยกรรมไว้ทั้งก่อนการดำเนินการ ระหว่างการดำเนินการ และหลังดำเนินการ โดยมีการดำเนินการอนุรักษ์ในส่วนพื้นผิวปูนฉาบและกระเบื้องประดับพระปรางค์ ดังนี้

 

๑. ทำความสะอาดพื้นผิวตะไคร่น้ำที่ก่อให้เกิดคราบดำแก่องค์พระปรางค์ เนื่องจากสิ่งเหล่านี้จะก่อให้เกิดความเสียหายแก่เนื้อปูนในระยะยาวต่อไป

 

๒. กะเทาะปูนบริเวณที่ผุเปื่อยหรือเสื่อมสภาพออก ทำความสะอาด แล้วฉาบปูนใหม่เสริมความมั่นคง โดยใช้ปูนหมักธรรมชาติตามกรรมวิธีโบราณ ซึ่งสีของเนื้อปูนดังกล่าวเป็นสีขาวโดยธรรมชาติ

 

๓. เมื่อดำเนินการบูรณะเสร็จสมบูรณ์แล้ว ภาพรวมขององค์พระปรางค์จึงเป็นสีขาว อนึ่ง การทำความสะอาดคราบดำจากตะไคร่น้ำนั้น ทำให้เส้นรอบนอกของลวดลายกระเบื้องที่ดูชัดเจนจากคราบดำเหล่านั้นลดลง

 

กรมศิลปากรได้ดำเนินการศึกษาลวดลายกระเบื้องเคลือบที่ใช้ในการประดับองค์พระปรางค์วัดอรุณฯ โดยการกระสวนลายเพื่อเป็นหลักฐานในการดำเนินงานบูรณะกระเบื้องที่มีความชำรุดเสียหายมาก หรือส่วนที่หลุดล่อนหายไป และจำแนกกระเบื้องจากลักศณะดังนี้

 

๑. ตำแหน่งที่พบ (เช่น อยู่ในชั้นใต้ผิวปัจจุบัน หรือพบกระจายอยู่ทั่วไป)

 

๒. ลักษณะกายภาพทั่วไป

 

๓. ลักษณะเนื้อดินและอุณหภูมิ (เนื้อดินเผา/earthenware,เนื้อแกร่ง/stoneware,เนื้อกระเบื้อง/Porcelain)

 

๔. ลักษณะลวดลายสีเคลือบ

จากนั้นจึงดำเนินการคัดเลือกชิ้นงานที่มีความสมบูรณ์เพื่อเป็นต้นแบบการทำวัสดุทดแทนด้วยเครื่อง 3D LASER SCAN และนำส่งโรงงานผลิตตามลักษณะลวดลาย,เนื้อดิน และสีเคลือบดั้งเดิมต่อไป ในส่วนถ้วยชามโบราณมิได้มีการแกะหรือนำชิ้นส่วนดั้งเดิมออกจากพระปรางค์ แต่ได้มีการจัดทำวัสดุทดแทนขึ้นใหม่เพื่อประดับเฉพาะส่วนที่หลุดหายไป ซึ่งได้มีการศึกษาลวดลายและวัสดุเปรียบเทียบจากชิ้นงานดั้งเดิม

 

อนึ่งการดำเนินงานอนุรักษ์พระปรางค์วัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร ได้มีการเก็บข้อมูลทั้งที่เป็นข้อมูลภาพนิ่ง การถ่ายภาพแบบ 3 มิติ และลายเส้นของพระปรางค์ประธานและองค์ประกอบทั้งหมด

แหล่งที่มา : กลุ่มเผยแพร่และประชาสัมพันธ์ สำนักบริหารกลาง กรมศิลปากร