ประชุมหารือกรณีการจัดทำเอกสารนำพระธาตุนครศรีธรรมราช เสนอสู่มรดกโลก

เมื่อวันที่ ๓๐ มกราคม ๒๕๕๘ นายบวรเวท รุ่งรุจี อธิบดีกรมศิลปากร ประชุมร่วมกับนายพีระศักดิ์ หินเมืองเก่า ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ผศ.ฉัตรชัย ศุกระกาญจน์ ประธานคณะกรรมการฝ่ายวิชาการ หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง และผู้แทนภาคประชาชนเกี่ยวกับเรื่องการเสนอวัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร ขึ้นบัญชีเป็นมรดกโลก รวมทั้งปัญหาการเกิดคราบสนิมองค์พระบรมธาตุฯ และแนวทางแก้ไข และการขุดค้นทางโบราณคดีในพื้นที่วัดพระมหาธาตุวรมหาวิหาร อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ทั้งนี้กรมศิลปากรจะร่วมกับจังหวัดนครศรีธรรมราชและวัดพระบรมธาตุจัดตั้งนั่งร้านขึ้นเพื่อตรวจสอบรายละเอียดอย่างชัดเจนและหาแนวทางบูรณะแก้ไขปัญหาต่อไป

นายบวรเวทกล่าวว่า สำหรับปัญหาองค์พระบรมธาตุนครศรีธรรมราชเป็นคราบสนิมนั้น เห็นชอบให้ตั้งนั่งร้านขึ้นไปตรวจสอบหาสาเหตุที่แน่ชัด ซึ่งจากหลักฐานที่มีอยู่เฉพาะส่วนของปลียอดเหนือกลีบบัวขึ้นไป ด้านในมีแผ่นตะกั่วและไฟเบอร์กลาสหุ้มไว้โดยมีแผ่นทองคำหุ้มทับอยู่รอบนอก ไม่มีโลหะที่เป็นสนิม แต่ในส่วนของกลีบบัวคว่ำบัวหงายมีโครงเหล็กสแตนเลสรัดอยู่โดยรอบ มีปูนโบกทับ ซึ่งไม่มั่นใจว่าจะเป็นสแตนเลสแท้หรือไม่ คราบสนิมที่เกิดคิดว่ามาจากโครงสร้างเหล็กดังกล่าว

นายบวรเวทกล่าวอีกว่า ดังนั้นทางแก้ไขคือ ต้องขึ้นไปตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยติดตั้งนั่งร้านขึ้นไปตรวจสอบ เพื่อให้ชาวนครศรีธรรมราชหายสงสัย ซึ่งกรมศิลปากรจะส่งช่างสิบหมู่ชุดใหญ่ลงมา พร้อมนักวิทยาศาสตร์เพื่อการอนุรักษ์และวิศวกรมาตรวจสอบด้วย ว่าเกิดจากสาเหตุอะไร บูรณะแบบไหน เพื่อให้การแก้ไขปัญหาได้ตรงจุด หากจำเป็นต้องบูรณะก็ต้องตั้งคณะกรรมการขึ้นมา 1 ชุด ต้องถอดกลีบบัวค่ำบัวหงายออกมาเก็บรักษาไว้ แล้วเอาโครงเหล็กดังกล่าวออก และติดตั้งโครงเหล็กที่เป็นสแตนเลสแท้ หรือวัสดุอื่นที่ไม่เป็นสนิมเข้าไปใหม่อีกครั้ง ยืนยันว่าการบูรณะองค์พระบรมธาตุนครศรีธรรมราช ไม่ส่งผลกระทบต่อการนำเสนอขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกแต่อย่างใด เพราะการซ่อมแซมบูรณะโบราณสถานเป็นเรื่องปกติ